วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

10 อันดับสุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก


อันดับ 10


austrelain cattle

austrelain cattle เป็นสุนัขพันธุ์ใหม่ มีต้นกำเนิดมาจากการผสมข้ามพันธุ์ มีความอดทนเหมือนสุนัขพื้นเมือง มีความสามารถทางปศุสัตว์ ซื่อสัตย์ และก็ฉลาด

อันดับ 9


rottweiler

rottweiler ตกเป็นข่าวหน้า 1 อยู่บ่อยครั้งถึงความดุร้าย แต่ถ้าหากได้รับการฝึกฝนที่ดีมันก็พร้อมที่จะเป็นทั้งเพือนและยามเฝ้าบ้านที่ดีให้เรา

อันดับ 8


papillon

papillon เป็นสายพันธุ์ที่ฉลาดอย่างน่าทึ่ง แข็งแรง กล้าหาญ พร้อมที่จะปกป้องเจ้าของจากผู้ที่จะบุกรุก

อันดับ 7


labradorw

labradorw ไม่ต้องบอกก็รู้นะว่าฉลาดยังไง เพราะ ว่ามันคือสุนัขตำรวจนั่นเอง

อันดับ 6


shetland sheepdog

shetland sheepdog มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์รักเด็ก มีสัญชาตญาณที่ดี เหมาะสำหรับเลี้ยงไว้เป็นสุนัขครอบครัว

อันดับ 5


doberman pinscher

doberman pinscher จัดว่าเป็นสุนัขอารักขาที่ดีที่สุดในโลก ถึงตัวไม่ใหญ่แต่สู้กับใครแล้วแพ้ยาก

อันดับ 4


golden retriever

golden retriever มีสมญานามว่าเป็นหมาใจดี ด้วยลักษณะนิสัยที่เป็นมิตร

อันดับ 3


german shephed

german shephed หมาพันธุ์นี้ขึ้นชื่อเรื่องความกระตือรือร้น ตื่นตัว กล้าหาญ และกระหายที่จะเรียนรู้

อันดับ 2


poodle

poodle นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความน่ารักแล้ว มันยังร่าเริงและช่างประจบอีกต่างหาก

อันดับ 1


border collie

border collie นอกจากจะเป็นสุนัขที่ไอคิวดีที่สุดในโลกแล้วยังมีความสามารถในการเรียนรู้สูง ประสาทไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

10อันดับพันธ์สุนัขน่าเลี้ยง


 10. ชิวาวา (พันธุ์ขนเรียบ), (Chihuahua smooth coat)

สุนัขพันธุ์เล็ก ขนาดพกพา ตาโต ถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก อดีตเป็นสัตว์ที่เป็นอาหารและถูกบูชายัญ มีสองสายพันธุ์คือ พันธุ์ขนเรียบและพันธุ์ขนยาว ชิวาวา มีความสูงไม่เกิน 5 นิ้ว มีน้ำหนักเฉลี่ย 0.9 - 2.7 กิโลกรัม จัดว่าเป็นสุนัขพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลก มีทั้งสีขาว สีน้ำตาลอ่อน สีทราย สีดำ อาจมีสีเดียวอย่างแดงน้ำตาล ทอง หรือสลับขาวน้ำตาล หัว หน้าผากต้องกลมโค้งเป็นรูปแอปเปิ้ล หูตั้ง ปากสั้นแหลม ขนสั้น ถ้าเป็นพันธุ์ขนยาวจะไม่หยิกม้วน สุนัขพันธุ์นี้หลายคนต่างหลงใหล เพราะเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ มีเสน่ห์ ขี้ประจบ เป็นสุนัขเฝ้าระวัง เตือนภัยได้ดี เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ไม่มาก แต่ไม่ชอบอากาศเย็น


 9. บีเกิ้ล (Beagle)

สุนัขล่ากระต่ายในอดีต มีหูที่ยาวปรกลง มีทั้งพันธุ์ธรรมดา มีความสูงประมาณ 13-15 นิ้ว หนัก 18-20 ปอนด์ และพันธุ์อลิซาเบธ บีเกิ้ล (Elisabeth beagle) มีความสูงไม่เกิน 12 นิ้ว มีน้ำหนักไม่เกิน 20 ปอนด์ บี เกิ้ล มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ เป็นสุนัขรักสันติ รักเด็ก ไม่เพียงเป็นสุนัขล่าสัตว์อย่างกระต่ายในอดีต ในหลายร้อยปีก่อนบีเกิ้ลยังถูกนายพรานควบคุมเป็นฝูง เพื่อนำไปล่าหมาป่า กวาง แต่ในระยะหลังใช้บีเกิ้ลเป็นสุนัขคาบนกที่เจ้าของล่าได้ เนื่องจากบีเกิ้ลสืบสายพันธุ์มาจากสุนัขดมกลิ่น ประสาทในการรับกลิ่นดีเยี่ยม แต่สำหรับผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ คงไม่ดีแน่หากหวังจะใช้เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เพราะความเป็นสุนัขสังคม ไม่ชอบยึดอยู่กับสิ่งใดเพียงสิ่งเดียว อาจทำให้บีเกิ้ลหงุดหงิดได้ง่าย บีเกิ้ลจึงเหมาะที่จะเลี้ยงไว้เพื่อสร้างมิตรภาพกับบุลคลในครอบครัวมากกว่า ลักษณะทั่วไปของบีเกิ้ล มักมีขนสามสีบนตัว คือ สีขาว สีดำ และน้ำตาล สีที่อกโดยมากเป็นสีขาว ส่วนสีดำกับสีน้ำตาลนั้นจะอยู่บนลำตัว และแผ่นหลังด้านใต้ท้องก็จะเป็นสีขาวเช่นกัน หน้าผากจะตั้งชัดเจน ใบหูยาวปรกลง ขนสั้นตรง หางยาวปานกลาง ค่อนข้างตรงชี้ขึ้น ขนาดกะทัดรัด รูปร่างแข็งแรง


 8. ยอร์กไชร์เทอร์เรีย (Yorkshire Terrier)

สุนัขตัวน้อย ขนยาว เส้นบาง มันวาวสลวย มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ถือว่าเป็นสุนัขสวยงามมาก เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิตชีวา รักเจ้าของ ขี้ประจบ สามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตสังคมเล็กๆ เช่นในอพาร์ตเม้นต์ได้ดี ลักษณะทั่วไป สีมี 2 สีบนตัว สีน้ำตาลทองจะมีอยู่บนใบหน้า อก ท้อง และบริเวณปลายเท้า เส้นขนจะมีสีดำน้ำเงินที่โคนไล่ลงมาถึงตอนกลาง และจะมีสีน้ำตาลทองที่ส่วนปลายหัว ขนข้างจะมีขนาดเล็ก และเรียบไม่นูนกลม ปากแหลมยาวสมส่วน จมูกจะมีสีดำสนิท หูตั้งเป็นรูปตัววี มีขนสั้นๆ สีทองปกคลุม ขนยาวตรงปกคลุมทั้งตัว เท้าค่อนข้างกลมมีเล็บเท้าสีดำ ขาหน้าจะเหยียดตรง ขาหลังมองจากด้านข้างจะโค้งลงที่เข่าเล็กน้อย หางตัดสั้น สุนัขพันธุ์นี้ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะต้องดูแลเรื่องขนเป็นพิเศษ เป็นสุนัขที่ให้ลูกยาก


 7. บูลล์ด็อก (Bulldog)

เห็นรูปร่างตันๆ กำยำ ดูแข็งแรงอย่างนี้ แต่เป็นที่โปรดปรานของผู้เลี้ยงสุนัขพอสมควร มีถิ่นกำเนิดจากประเทศกรีก ในอดีตเป็นสุนัขที่ใช้ต่อสู้กับวัวซึ่งถือเป็นกีฬาชนิดหนึ่งในสมัยนั้น แต่ต่อมากีฬาสู้วัวถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จึงเกิดการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีเลือดนักสู้ลดลง จนกลายเป็นสุนัขที่กล้าหาญแต่วางใจได้ ไม่ดุร้ายเหมือนรูปร่าง บูลล์ด็ อก มีน้ำหนัก 25 กิโลกรัม สูงเต็มที่เพียงฟุตเศษ ลักษณะเด่นคือหัวกลม มีปากและบริเวณใบหน้าย่น ห้อย ขนเกรียนสั้นตรงและเรียบ นิ้วเท้าเวลายืนเหมือนยกขึ้น ขาหน้าตรง เวลายืนแล้วจะกางออกเล็กน้อย หางสั้น โดยมากจะเป็นสีเดียวทั้งตัว แต่มีสีดำที่ใบหน้า ปาก หน้าอก แต่ตอนนี้นิยมสีน้ำตาลลูกวัว ผู้เลี้ยงอาจต้องทำใจไว้ด้วยว่า ตัดสินใจเลี้ยงสุนัขที่นอนกรน และต้องระวังเรื่องอากาศร้อนเป็นพิเศษ


 6. ร็อตต์ไวเลอร์ (Rottweller)

พันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเยอรมนี มีสีดำ มีแต้มด่างสีน้ำตาลเด่นชัด บริเวณขอบตา ปาก หน้าอก ขาท่อนล่าง และใต้ฐานของหาง ขนสั้น เป็นสุนัขที่มีกล้ามเนื้อชัดเจน ดูสมส่วน ใบหูปรก นิยมตัดหางให้สั้น สุ นัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์ ที่ตกเป็นข่าวบ่อยครั้งด้วยความดุร้าย ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่มาจากสัญชาตญาณสัตว์ที่ต้องเอาตัวรอดตั้งแต่อดีต มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ในฐานะสุนัขนักล่าและสุนัขเฝ้ายาม แต่ร็อตต์ไวเลอร์ในปัจจุบันได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์จนได้ชื่อว่าเป็น สุนัขที่มีความฉลาด ชอบการสัมผัสอย่างทะนุถนอม และสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว หากได้รับการฝึกฝนที่ดี จะเป็นสุนัขที่เชื่อฟังคำสั่ง ใจเย็น เป็นทั้งเพื่อนและยามที่ดีของครอบครัว ด้วย ลักษณะภายนอก ความแข็งแรง ความฉลาดของสุนัขพันธุ์นี้ เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงปศุสัตว์ เพราะมีพื้นที่ให้สุนัขออกกำลังกายได้มากกว่า แต่ก่อนเลือกซื้อ ผู้เลี้ยงควรตัดสินใจให้รอบคอบก่อนว่าเหมาะกับตนหรือไม่ ศึกษาสายพันธุ์ที่ดีเพราะอาจกลายเป็นสุนัขที่ก้าวร้าวเกินควบคุม



 5. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)

สุนัขลากเลื่อนที่มีท่วงท่าสง่างาม มีถิ่นกำเนิดจากเอเชียตอนเหนือ มีความอดทนแข็งแรงดีเลิศ อดีตเป็นสุนัขใช้งานลากเลื่อนในเมืองหนาว นับเป็นสัตว์ที่ปรับตัวเก่ง ใจดี ไม่ก้าวร้าว ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขที่มีขนสองชั้น สีพื้นเป็นสีน้ำตาล ดำ เทา แต่ใบหน้าต้องมีสีขาวเท่านั้น ขอบตาเป็นสีดำ ขนสั้นตรงฟู แน่น หัวมีขนาดปานกลาง ดูสมส่วนกับขนาดลำตัว ใบหูตั้งตรง รูปตาเรียว หางฟูพอง มักจะโค้งเป็นพวงขึ้น บนหลังคล้ายกับสุนัขจิ้งจอก ต้องการออกกำลังกายเป็นหลัก จุดเด่นของสุนัขพันธุ์นี้คือ มีความอดทนสูงมาก ทำงานได้ดังหุ่นยนต์ รักเจ้านาย ครอบครัว หรือแม้แต่สุนัขด้วยกันเอง สามารถปรับตัวให้เข้าได้กับสภาพอากาศ วิ่งเร็วมาก สามารถเป็นสุนัขเฝ้ายามที่ดี แต่มักทำตัวเป็นจ่าฝูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เลี้ยงที่มีความกระฉับกระเฉง


 4. ปั๊ก (Pug)

สุนัขพันธุ์ตัวเล็กหน้าย่น มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน มีประวัติยาวนานกว่า 2,500 ปี เป็นสุนัขที่นิยมมากของชาวพุทธในสมัยโบราณ ด้วยมีความเชื่อที่ว่า ปั๊ก เป็นสัตว์เลี้ยงมงคล เพราะลักษณะรอยย่นของใบหน้ามีความหมายตามความเชื่อที่ดี เป็นสิริมงคลต่อผู้เลี้ยง ปัจจุบันเป็นที่แพร่หลายทั่วโลก ปั๊ก เป็นสุนัขรักเด็ก ร่าเริง กระตือรือร้น มีน้ำหนักไม่เกิน 9 กิโลกรัม สูงไม่เกินฟุต มีลักษณะใบหน้าสีดำเหมือนใส่หน้ากาก ขนสั้นละเอียดนุ่ม ลำตัวมีกล้ามเนื้อ ลักษณะทั่วไป กลม ใหญ่ จมูกสั้น ปากสั้น กระหม่อมไม่โค้ง มีรอยย่นที่หัว ปาก แก้มนิ่ม เท้ากลม ฝ่าเท้าแผ่ มีกล้ามเนื้อที่ขาทั้ง 4 ชัดเจน หางม้วนเป็นเกลียวอยู่บนแผ่นหลังตรงสะโพก แต่ สิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องระวังไม่ให้อ้วนจนเกินไป อีกทั้งต้องดูแลเรื่องอากาศเนื่องจากเป็นสุนัขที่มีโพรงจมูกสั้น อาจมีปัญหาเรื่องการหายใจ


 3. ชิสุ (Shih Tzu)

ชิ สุ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน ได้ชื่อว่า "สุนัขพันธุ์ราชสีห์" เพราะมีขนแผงคอเหมือนสิงโต อีกทั้งท่าทางการเดินหรือเคลื่อนไหวที่สง่างาม เดินตรงเชิดหน้าคอเหยียดและมีพวงหางขนยาวจะปกคลุมลงบนหลังชัดเจน ในอดีตจึงเป็นสุนัขที่เลี้ยงกันในราชสำนักของจักรพรรดิ นับเป็นสิ่งสูงค่าสำหรับสามัญชน เป็นสุนัขที่มีชนชั้น ชิสุ เมื่อโตเต็มที่น้ำหนักไม่เกิน 18 ปอนด์ สูงประมาณ 9 -10.5 นิ้ว รูปร่างเล็กแต่มีขนยาว เป็นขนสองชั้น หนา ยาวตรงหรือเป็นคลื่นเล็กน้อยปกคลุมลำตัว ขนบนหัวควรผูกรวบให้เรียบร้อย ป้องกันดวงตา ขนที่ก้นและเท้าต้องตัดให้เรียบร้อยเช่นกันเพื่อความสะอาด สุนัขพันธุ์นี้ต้องการการแปรงขนทุกวัน ผู้เลี้ยงต้องมีเวลาในการแปรงขนอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ลักษณะของชิสุที่ดี ควรมีลักษณะขนยาว ไม่ม้วนหยิก สีของขนเป็นสีผสมกันของสีดำ น้ำตาล ขาว มีสีขาวเป็นสีพื้น ส่วนกะโหลกกว้างอย่างสมดุล ตากลมโต นัยน์ตาสีดำ หรือจะเป็นสีน้ำตาลสีตับ แววตาร่าเริงแจ่มใสและเป็นมิตรต่อทุกสิ่ง ส่วนปากสั้นยาวไม่เกิน 1 นิ้ว และไม่มีรอยย่นของผิวหนังรอบปาก ปากไม่แหลม คางไม่ยื่น คอควรตั้งตรงยาว  ส่วนกับลำตัว ลักษณะลำตัวของชิสุต้องมีความยาวของลำตัวมากกว่าความสูงเล็กน้อย อกใหญ่ ลึก หางจะต้องโค้งตั้งขึ้นมาบนหลัง ไม่ห้อยลง มีขนขึ้นเป็นพวงสวยงาม แม้ ชิสุ จะเป็นสุนัขขนาดเล็ก แต่ก็ได้ชื่อว่า "เล็กแต่อึด" หากมีสุขภาพดีจะเป็นสัตว์ที่มีความทรหดอดทนสูง มีความแข็งแรงดุจสุนัขใช้งาน แต่ข้อดีของสุนัขพันธุ์ชิสุที่สร้างเสน่ห์อย่างดีก็คือ ฉลาด เป็นมิตร มีเสน่ห์ ไม่ดุร้าย ไม่เจ้าอารมณ์ เหมาะสมกับบ้านทุกชนิด จากสิถิติที่ผ่านมา ชิสุ เป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุอาจเพราะปัจจุบันผู้นิยมเลี้ยงสุนัขมีที่อยู่อาศัยที่เล็กลง ส่งผลให้สุนัขพันธุ์เล็กเพิ่มจำนวนมากขึ้นไปด้วย และด้วยการขยายพันธุ์ที่ง่ายกว่า ชิสุจึงมาแรงแซงสุนัขพันธุ์เล็กพันธุ์อื่น รวมถึงลักษณะขนและหน้าตาสร้างความเพลิดเพลินในการเลี้ยงดูของเจ้าของที่ชอบ แต่งตัวให้สุนัข แต่คงไม่เหมาะนักสำหรับเจ้าของที่ไม่มีเวลา



 2. โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)

โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มามากกว่า 200 ปี ในอเมริกา เป็นสุนัขขนาดกลาง ตัวผู้สูงราว 23-24 นิ้ว หนักประมาณ 64-70 ปอนด์ ตัวเมีย สูง 21-23 นิ้ว น้ำหนัก 60-70 ปอนด์ มีสีหลายระดับสี มักจะเป็นสีออกครีมถึงสีเหลืองทอง จนถึงกึ่งเข้มแดงมะฮอกกานี เป็นสุนัขที่มีลักษณะหัวกว้าง และมีช่วงปากที่แข็งแรง ตาสีน้ำตาล หูค่อนข้างใหญ่เป็นรูปสามเหลี่ยม ปรกลงมาด้านข้าง มีขน 2 แบบ คือเรียบกับเป็นลอน ขาหน้าตรงแข็งแรง เท้ากลมคล้ายเท้าแมว ลักษณะหางชี้ตรงระดับเดียวกับหลัง ขนบริเวณหางจะยาวและหนา นอกจาก ความสวยของขนที่มันวาว สวยงาม ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ได้รับความนิยมมาก โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ยังได้รับสมญานามว่า "หมาใจดี" บ่อยครั้งที่ภาพความผูกพันระหว่างเจ้าตูบโกลเด้น กับเด็กๆ มักมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง นั่นเพราะมีลักษณะนิสัยเป็นมิตร และสุภาพเป็นเลิศ ใจดี ซื่อสัตย์ มีความสามารถพิเศษในการจดจำ ง่ายต่อการฝึกฝน กระฉับกระเฉง และคาบสิ่งของได้ดี ในอดีตจึงมักใช้งานเพื่อหานกที่ถูกยิงตกนำมาให้เจ้าของ


ปอมเมอเรเนี่ยน (Pomeranian)

ปอม เมอเรเนี่ยน มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเยอรมนี เป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง ขึ้นจากอันดับ 3 ในปีก่อน ด้วยความเล็กกะทัดรัด ขนฟูดูสวยงาม ใบหน้าแหลมเล็ก หลายคนหลงใหลในความน่ารักของสุนัขพันธุ์นี้ ลักษณะโดยทั่วไป มีความสูงโดยเฉลี่ยไม่เกินฟุต หรือประมาณ 20 เซนติเมตร หัวกลม ใบหน้ามีส่วนคล้ายสุนัขจิ้งจอก ปากเรียวแหลม ส่วนหัวและใบหน้ามีขนสั้น ตากลมโตและโปนเล็กน้อย หูเล็กเป็นรูปสามเหลี่ยมตั้งตรงและชิดกัน จมูกดำกลม ขนยาวฟูฟ่องทั่วลำตัว ขนสีดำ โกโก้ แดง ส้ม ขาว เหลือง บางตัวมีหลายสีปนกัน ขนทั้งตัวจะปกคลุมด้วยขนยาว ดก ฝ่าเท้านิ่ม ขนหางเป็นพวงโค้งเป็นวงกลมออกด้านข้าง นอกจากความเล็กน่ารักแล้ว ความฉลาด ซื่อตรงและร่าเริง ปฏิภาณไหวพริบดี และขี้ประจบของปอมเมอเรเนี่ยน ยังเป็นจุดเด่นที่ทำให้เจ้าของต่างหลงใหล แต่ขณะเดียวกันความเล็กของสุนัขพันธุ์นี้จึงมักมีผลต่อการขยายพันธุ์ที่ค่อนข้างลำบาก

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557

แมวที่แพงที่สุดในโลก


                  “Ashera Cat” แพงขนาดที่ว่ากันว่าราคามันอยู่ที่ราว 15,000-100,000 เหรียญสหรัฐ [อ้างอิงจาก tw] โดยเจ้าแมว  “Ashera Cat”  นี้หรืออ่านในภาษาไทยว่า แมวอาชีร่า เป็นแมวสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกคิดค้นและผสมพันธุ์ขึ้นโดย บริษัท แคลิฟอร์เนีย ไบโอเทค  ซึ่งได้นำเอา แมวป่าแอฟริกัน (African Surval) กับ แมวเสือดาวเอเชีย (Asian Leopard Cat)  และแมวบ้าน มาผสมพันธุ์กันจนได้แมวที่มีหน้าตาคล้ายเสือดาว เสือดาวแท้ๆเลย และมีน้ำหนักมากถึง  13.6 กิโลกรัม  มีความสูงมากกว่าแมวบ้านทั่วไป  โดยถ้ามันยืนสองขาจะมีความสูงถึง 120 เซนติเมตร มีอายุราว 25 ปี ถึงแม้ว่ามันจะมีหน้าตาดุดันเหมือนเสือดาว และตัวใหญ่กว่าแมวทั่วไป แต่ว่ามันกลับเป็นแมวที่เลี้ยงง่ายมากๆ และเป็นมิตร ไม่หนีจากเจ้านายไปไหน เปิดประตูเองได้ แถมยังชอบให้เจ้านายพาไปเดินเล่นอีกด้วย


                  อย่างที่บอกไปแล้วว่า “Ashera Cat” เป็นแมวที่แพงที่สุดในโลกดังนั้นมันจึงถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงยอดฮิตของเหล่าไฮโซในอเมริกา ส่วนราคาก็อย่างที่บอกครับ ราว 15,000-100,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับใครที่อยากจะเลี้ยงแมวตัวนี้ละก็ต้องรอกันนานหน่อยเพาะตามข้อมูลนั้นระบุว่าต้องจองกันข้ามปีเลยทีเดียวและมันยังนับเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของแมวที่หายากที่สุดในโลกอีกด้วย



                ทั้งนี้  ไซมอน โบรดี้ ผู้ก่อตั้งบริษัท แคลิฟอร์เนีย ไบโอเทค  กล่าวว่า  “ทางบริษัทต้องว่าจ้างทีมนักพันธุกรรมในการพัฒนาสายพันธุ์แมวอาชีร่า ในห้องทดลองที่สหรัฐ การที่จะได้แมวมาสักตัวนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย” และอย่างที่บอกว่าต้องจองกันข้ามปี แถมบริษัทแห่งนี้สามารถจำหน่ายแมวอาชีร่าได้ประมาณปีละ50 ตัว เท่านั้น

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

10 อันดับสายพันธ์สุนัขหายาก


1.Azawakh (อาซาวักค์)

                   สุนัขสายพันธ์นี้ต้นกำเนิดจากทวีปแอฟริกา มีขนสั้น ช่วงตัวยาว ผอม สูง ปราดเปรียว เป็นมิตร ขี้เล่น มีความจงรักภักดีต่อเจ้าของมาก หวงอาณาเขตตัวเอง ส่วนมากนิยมเลี้ยงไว้เฝ้ายามตามสถานที่ต่างๆของเจ้าของ

2. Catalburun (ซาทาบูรอล)

                       เป็นสุนัขสายพันธ์นักล่า มีสายพันธเตอร์กิช พอย์นเตอร์ จงรักภักดีสูง ฉลาด เรียนรู้สิ่งต่างๆอย่างรวดเร็ว ลักษณะพิเศษคือ ขากรรไกรที่แข็งแรง และจมูกที่แบ่งเป็น 2 รู จุดนี้ทำให้สุนัขสายพันธ์นี้มีการรับรู้ถึงกลิ่นต่างๆได้ดีเยี่ยม ซาทาบูรอลมีความอดทนเป็นเลิศทั้งอากาศหนาวและร้อน

3.TibetanMastiff(ทิเบตันมาสทิฟฟ์)

                         เป็นสุนัขสายพันธ์ขนาดใหญ่ มีฉายา Big Splash มีนิสัยซื่อสัตย์ สุขุม มีอัธยาศัยดี แมสทิฟทิเบตสูงราว 61 ถึง 72 เซนติเมตร แต่เพศผู้สามารถสูงได้ถึง 81.28 เซนติเมตร หนักกว่า 100 กิโลกรัม และ แมสทิฟทิเบตยังเป็นสุนัขพันธุ์เพียงไม่กี่ชนิดที่ติดสัดปีละครั้ง ต่างจาชนิดอื่น ๆ ที่เป็นปีละสองครั้ง

4. Carolina Dog (แคโรไลนา)

                        Carolina Dog มีอีกชื่อที่เรียกว่า หมาป่าอเมริกัน เป็นสุนัขสายพันธ์หายากชนิดหนึ่ง ต้นกำเนิดแถบประเทศสหรัฐอเมริกา มีจุดเด่น คือ ฉลาด แข็งแรง สมส่วน ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศต่างๆได้ดี และชอบอยู่ในพื่นที่โล่งกว้าง

5. Peruvian Inca Orchid(เปรูเวียน อินคา ออร์คิด)

                           สุนัขหน้าตาแปลกพันธ์นี้ เป็นสายพันธ์เก่าแก่จากประเทศเปรู มีขนที่บางเบาปกคลุมร่างกาย บริเวณ ขา หัว และช่วงปลายหาง เหมาะกับการเฝ้าบ้าน มีนิสัยรักเด็ก แต่ค่อนข้างปรับตัวกับสภาพแวดล้อมต่างๆได้ยากสักหน่อย ไม่ชอบคนแปลกหน้าเท่าใดนัก

6. Fila Brasileiro (ฟิล่า บราซิลเลียโร่)

                         Fila Brasileiro สุนัขที่ขึ้นชื่อว่าดุที่สุดพันธ์หนึ่งของโลก เป็นสุนัขจากประเทศบราซิล มีพลังงานสูงสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้ดี ฉลาด อดทน เป็นเลิศ ผู้เลี้ยงมักใช้เฝ้าบ้านหรือสถานที่ต่างๆโดยเจ้าของสุนัขพันธ์นี้ต้องมีความเป็นผู้นำสูงเพื่อควบคุมเจ้าสายพันธ์นี้

7.Stabyhoun (สเตบี้ฮาวน์)

                     ต้นกำเนิดสเตบี้ฮาวน์ มาจากประเทศฮอลแลนด์ มีนิสัย อ่อนโยน ฉลาด เจ้าของมักนำมาใช้เฝ้าบ้าน พันธ์นี้ส่วนมากมักมีสีขาวดำ และขาวน้ำตาล แต่ทางสีส้มและขาวเป็นสายพันธ์ที่ใกล้สูญพันธ์ ปัจจุบันสายพันธ์นี้เหลือยู่ประมาณ 2,000 ตัว

8. Tosa (โทสะ)

                  เป็นหนึ่งในสายพันธ์ที่หายากมากๆในประเทศญี่ปุ่น รูปร่างสง่างาม มีลักษณะขนสั้น มีพละกำลังมากมักถูกใช้ในการต่อสู้ผจญภัย และสามารถเฝ้ายามได้เป็นอย่างดี

9.Thai Ridgeback (ไทยหลังอาน)

                    สุนัขสายพันธ์ดั้งเดิมจากประเทศไทย สง่าผ่าเผย โดดเด่นด้วยขนที่สั้นและขนที่ย้อนจากแนวเส้นหลังขึ้นมา สุนัขชนิดนี้ยังมีลักษณะลำตัวยาว  มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ว่องไว กระฉับกระเฉง ซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นเจ้าของอย่างมาก

10. Chinook (ชินุค)

               สุนัขชนิดนี้เป็นสายพันธ์อเมริกัน 100 เปอร์เซ็นต์ มีการพัฒนาการช่วงยุคทศวรรษที่ 90 ส่วนมากใช้ในการลากจูง มีความเป็นมิตร และใช้ทำงานได้หลากหลายรูปแบบ

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557

10 สายพันธ์แมวที่สวยที่สุด!

     แมงซ์ (Manx)

แมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่  แต่โดยภาพรวมของแมวแมงซ์นี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่หางของมันซึ่งไม่เหมือนกับพันธุ์แมวอื่น ๆ อย่างแน่นอน
ถิ่นกำเนิด : ประเทศอังกฤษ
สายพันธุ์ : เป็นแมวที่เกิดจากการกลายพันธุ์  โดยตอนแรกนั้นมันเป็นแมวสายพันธุ์แมวบ้านนี่แหละค่ะที่เกิดบนเกาะอังกฤษ  แล้วกลายพันธุ์จนทำให้หางมันหดสั้นลงเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นแมวสายพันธุ์แมงซ์ขึ้น
ลักษณะ : เป็นแมวขนาดกลาง ลักษณะเด่นของแมวพันธุ์นี้คือมีขาหลังที่ยาวกว่าขาหน้า  หัวกลม และหางสั้นมากจนถึงบางตัวดูเหมือนไม่มีหาง  ดูไปดูมาแมวพันธุ์นี้มีลักษระคล้ายกระต่าย มีทั้งพันธุ์ขนสั้นและขนยาว
อุปนิสัย : เป็นแมวที่ชอบเข้าสังคมและอยู่กับผู้คนได้ดี  แต่มันจะขี้อายกับคนแปลกหน้า  สายพันธุ์นี้เป็นแมวที่ฉลาดมากและขี้เล่นคล้ายนิสัยของสุนัข  เป็นแมวที่สามารถเรียนรู้คำสั่งได้ดีกว่าแมวหลายสายพันธุ์เป็นอย่างมากเลยด้วย
การดูแล : แมวแมงซ์ต้องการการแปรงขนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้นเพื่อกำจัดขนที่ตายแล้วออกไป  การดูแลตัดเล็บ แปรงฟันและพาไปพบสัตวแพทย์เหมือนแมวปกติ  แต่ปัญหาเรื่องสุขภาพอาจจะเกิดกับสายพันธุ์นี้ได้เพราะมักมีปัญหากระโรคสันหลังบกพร่องจากการกลายพันธุ์ของมัน ทำให้เกิดการสั่งการกับระบบประสาทที่ผิดปกติ  และลูกแมวพันธุ์แมงซ์ที่เป็นโรคนี้จะตายภายใน 6 เดือน
 
     อเมริกันขนสั้น  (American short hair)


สายพันธุ์นี้ถือเป็นสายพันธุ์ที่คนไทยนิยมเลี้ยงกันมาก พอ ๆ กับเจ้าเปอร์เซียกันเลย แมวพันธุ์นี้ได้โฆษณาอาหารแมววิสกัสกันด้วยนะ
ถิ่นกำเนิด : จากประเทศสหรัฐอเมริกา  เมื่อครั้งมีการโยกย้ายถิ่นฐานของคนยุโรปไปแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ แมวถูกนำลงเรือไปเพราะต้องการใช้ประโยชน์จากมันในการล่าหนูมิให้ทำลายข้าวของซึ่งที่นำไปด้วยนั้นมีหลายตัวและได้ผสมพันธุ์กันจนได้ลูกที่มีลักษณะเฉพาะออกมาให้เห็นอย่างปัจจุบัน
ลักษณะ : เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวใหญ่โต มีกล้ามเนื้อแข็งแรงเห็นชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ ยาวขนาดปานกลาง ใบหูขนาดกลางและขอบเป็นทรงกลมมน หัวรูปไข่แต่มีคางที่ค่อนข้างใหญ่ชัดเจน ดวงตาแมวพันธุ์นี้กลมโต ขอบตาด้านนอกด้านบนจะโค้งลงมา สีของตาเป็นสีเขียว  มีลักษณะสีขนและรูปร่างมากกว่า 80 แบบ มีตั้งแต่ สีน้ำตาล striking tabby ไปจนถึง แมวสีขาวตาสีฟ้าสดใส หรือ shaded silvers สี smoke และสี camero รวมทั้งสี calico van และสีอื่นในระหว่างนี้ แต่สีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือสีsilver tabby โดยจะมีลายสีดำเข้ม พลาดอยู่บนพื้นสีเงิน (ลายเสือ)

     หิมาลายัน (Himalayan)

ถิ่นกำเนิด : จากสหรัฐอเมริกา (ไม่ใช่เทือกเขาหิมาลัยนะคะ จากเว็บต่างประเทศทั้งหลายที่ได้เข้าไปศึกษามา)
สายพันธุ์ : เกิดจากการผสมระหว่างแมวเปอร์เซีย กับแมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศทำให้เกิดลักษณะเด่นของแมวเปอร์เซียและวิเชียรมาศผสมกันได้ลูกแมวสายพันธุ์ใหม่ขึ้น บางครั้งจึงอาจเรียกแมวพันธุ์หิมาลายันนี้ว่า Colour point persian (อย่างเช่นถ้าจุดแต้มมันเป็นสีน้ำเงินก็จะเรียกว่า Blue point Himalayan ค่ะ)
ลักษณะ : เป็นแมวขนาดเล็ก  ขาค่อนข้างเล็ก หูสั้น จมูกสั้น แก้มนูนเต็มพอกับสายพันธุ์ต้นกำเนิดของมัน  มีขนยาวบริเวณรอบเอวมีขนอ่อนนุ่ม รอบๆคอและแก้มมีขนครุยห้อย บริเวณหาง ขนขึ้นหนาทึบ ที่หูจะมีขนยาวเป็นกระจุกย้อยลงมาเหมือนกับพันธุ์เปอร์เซีย  แต่มีแต้มแบบแมววิเชียรมาศ (9 จุด ได้แก่ ครอบหน้า 1, หู 2, ขาทั้ง4, หาง 1 และอวัยวะเพศ 1  จึงทำให้แมวพันธุ์นี้มีลักษณะที่โดดเด่นออกไป  แถมมันยังมีตาสีฟ้าสดใสเหมือนแมววิเชียรมาศด้วย
อุปนิสัย : ชอบซุกซน รักสนุกสนาน ขี้เล่น  มันชอบที่จะมาอยู่คลุกคลีกับเจ้าของและชอบทำตามกิจกรรมที่เจ้าของกระทำอยู่ด้วย  สมกับเป็นแมวที่รักเจ้าของจริง ๆ
การดูแล : แมวพันธุ์นี้มีขนยาวเหมือนกับแมวเปอร์เซีย  แค่หมั่นแปรงขน ทำความสะอาดหูเป็นประจำ อาบน้ำบ่อย ๆ ตัดแต่งขนให้ดูดีอยู่เสมอ ดูแลฟันให้สะอาด อย่าปล่อยให้แมวอ้วนจนเกินไป ดูแลรอบดวงตาของมันด้วย ไม่ควรปล่อยแมวออกไปข้างนอกบ่อยนัก ให้อาหารแต่พอเหมาะ แถมเจ้าแมวพันธุ์นี้ชอบที่จะให้แปรงขน ทำความสะอาดอีกด้วย

     อเมริกัน เคิร์ล (American Curl)

ถิ่นกำเนิด : จากประเทศสหรัฐอเมริกา  สายพันธุ์นี้เกิดขึ้นที่ Lakewood ใน California ซึ่งเป็นผลจากการกลายพันธุ์
ลักษณะ : เป็นแมวที่มีร่างกายขนาดปานกลาง ลูกแมวอเมริกัน เคิร์ลจะเกิดมาพร้อมกับการมีหูตรงและเริ่มหูของมันจะเริ่มขดภายใน 10 วัน หลังจากนั้น 4 เดือน หูของมันจะไม่เกิดการเปล่ยนแปลงใดๆ ขึ้นอีกแต่เพียงแข็งขึ้นเท่านั้น แมวพันธุ์นี้มีทั้ง Shorthaired และ Longhaired โดยขนของมันจะนุ่มและเรียบเป็นเงา  เจ้าอเมริกัน เคิร์ลตัวผู้จะมีลักษณะสวยและสง่างามกว่าแมวอเมริกัน เคิร์ลตัวเมีย จุดเด่นของสายพนธุ์นี้ที่มีหูพลิกแล้วยังมีดวงตาที่กลมโตคล้ายกับลูกวอลล์นัท
อุปนิสัย : เป็นแมวที่ร่าเริงไม่ดุ มีนิสัยเป็นมิตรกับผู้คน  ซื่อสัตย์ รักสนุกสนาน เข้ากันได้ดีกับเด็ก ๆ และสัตว์อื่นในบ้าน  ไม่ค่อยส่งเสียงร้องมีเพียงเสียงครางเบา ๆ บางเวลาเท่านั้น เค้าว่าอเมริกัน เคิร์ลมีลักษณะคล้ายสุนัขอีกด้วย
การดูแล : เป็นแมวที่มีสุขภาพดี  แต่จำเป็นต้องมีการทำความสะอาดบ่อยครั้ง  เพื่อป้องกันการติดเชื้อและต้องการการดูแลที่อ่อนโยนเพื่อป้องกันความเสียหายกับใบหูของมัน  เพราะถ้าดูแลไม่ดีกระดูกอ่อนที่ใบหูมันจะเกิดความเสียหายได้ง่าย  ก็หูมันแปลกซะขนาดนั้น

     แร็กดอลล์ (Ragdoll)

ถิ่นกำเนิด : จากประเทศอเมริกา (America)
ลักษณะ : เป็นแมวที่มีโครงร่างขนาดใหญ่ ร่างกายแข็งแรง มีตาสีฟ้าสวยงาม มองแล้วเคลิ้มเชียว ขนจะหนาแน่นเป็นปุยมากในบริเวณเอว ที่หางมีขนยาวชัน  ถ้าสังเกตุที่บริเวณอุ้งเท้าไปจนถึงช่วงขาของมันจะเป็นสีขาวจนดูเหมือนกับสวมถุงเท้าตลอดเวลา
อุปนิสัย : เป็นแมวผู้ดีชอบความเงียบสงบ มีเสียงร้องที่เบามาก และเวลาอุ้มจะมีนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ของมันเลยก็คือจะเมื่อเวลาที่คนอุ้ม มันจะทิ้งตัวโตงเตงราวกับตุ๊กตาเศษผ้าราวกับไม่มีชีวิต ดูคล้ายอาการเมายา
การดูแล : ด้วยความที่เป็นแมวขนยาวแล้วชอบเลียขนเพื่อทำความสะอาด ทำให้แมวพันธุ์นี้มักป่วยจากการเกิด Hairball (ขนที่จับตัวเป็นก้อนกลมในกระเพาะ อันเกิดจากการเลีย) ในท้องสูง  เจ้าของที่เลี้ยง แมว Ragdoll ควรใส่ใจในการแปรงขนให้มัน และหมั่นสังเกตอาการต่าง ๆ หากพบอาการผิดปกติ ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์กันด้วยนะ เจ้า Ragdoll จะได้อยู่กับเราไปนานๆ

     ทอยเกอร์ (Toyger)

เกิดจาก : การผสมกันระหว่างพันธุ์ Domestic shorthair กับพันธุ์ Bengal
ลักษณะ : เป็นแมวขนาดกลาง ลายบนตัวมันเป็นแนวตั้งล้อมรอบตัวเป็นลายที่มีไม่สม่ำเสมอ มีรอยที่คอ ขาและหาง  ที่สำคัญคืออุ้งเท้าและปลายหางจะต้องเป็นสีดำ
อุปนิสัย : เป็นแมวที่เป็นมิตร ขี้เล่น ไม่ได้ดุร้ายเหมือนหน้าตาของมันนะคะ และถือว่าเป็นมากที่ฉลาดสายพันธุ์นึงเลยทีเดียว  ถ้าคุณรู้จักฝึกมันจะสามารถทำตามได้
การดูแล : แมวพันธุ์นี้ดูแลได้ง่ายมาก  เพราะด้วยความที่มันมีขนสั้น แมวพันธุ์นี้ควรแปรงฟันและตัดแต่งเล็บให้มันด้วยนะ ปัญหาด้านสุขภาพของเจ้า Toyger ค่อนข้างน้อย

     เปอร์เซีย (persian)

ถิ่นกำเนิด :  เป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเปอร์เซีย หรืออิหร่าน
สายพันธุ์ : เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างแมวเตอร์กิส แองโกร่า กับแมวสายพันธุ์อื่นโดยชาวอังกฤษ และได้มีการพัฒนาจนได้แมวที่มีขนหนาและยาวกว่าเดิม
ลักษณะ : เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หัก กล่าวคือ สังเกตได้ชัดเจนเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากชัดเจน เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา        สำหรับแมวเปอร์เซียที่มีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ ควรจะมีจมูกอยู่ในระดับเดียวกับตา โครงสร้างลำตัวสั้น ขาสั้นเตี้ย หูเล็กมีปลายหูที่กลมมน และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน หางสั้นและตรง ไม่มีรอยหัก ขนยาวฟู มีท่วงท่าการเดินดูสง่างาม ทั้งนี้ แมวเปอร์เซียในสมัยแรกๆ มีรูปร่างหน้าตาที่ต่างจากแมวเปอร์เซียในปัจจุบันมากทีเดียว ปัจจุบันมันถูกพัฒนาให้มีรูปร่างที่สั้นขึ้น ขนยาวขึ้น ถูกเปลี่ยนแปลงโครงร่างให้ใหญ่และกลม จมูกสั้นและหักมากขึ้น
อุปนิสัย : เป็นแมวที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน สุขุมเข้ากับคนง่าย มี ความร่าเริงซุกซน ชอบประจบประแจงและมีไหวพริบ
การดูแล : หมั่นแปรงขนเป็นประจำ ทำความสะอาดหูเป็นประจำ อาบน้ำบ่อย ๆ ตัดแต่งขนให้ดูดีอยู่เสมอ ดูแลฟันให้สะอาด อย่าปล่อยให้แมวอ้วนจนเกินไป ดูแลรอบดวงตาของมันด้วย ไม่ควรปล่อยแมวออกไปข้างนอกบ่อยนัก ให้อาหารแต่พอเหมาะ และที่สำคัญคือหมั่นสังเกตปัญหาเรื่องการหายใจเนื่องจากแมวเปอร์เซีย มีโพรงจมูกที่ค่อนข้างสั้น จึงทำให้มันต้องประสบปัญหาในการหายใจอยู่เสมอ และในกรณีที่เป็นหนักเข้า แมวบางตัวอาจจำเป็นต้องให้สัตวแพทย์ช่วยผ่าตัดแก้ไข เพื่อให้หายใจได้สะดวก ดังนั้นก็ควรสังเกตพฤติกรรมของมันอยู่เสมอ หากแมวของคุณส่งเสียงทางจมูกบ่อย ๆ หรือมีอาการกรนดังผิดปกติ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

     ไซบีเรียน (Siberian)

ถิ่นกำเนิด : จากประเทศรัสเซีย
สายพันธุ์ : เป็นแมวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  ชื่อเต็มของมันก็คือ Siberian forest cat ก็เนื่องจากที่มันเป็นสายพันธุ์แมวที่เกิดจากป่าแล้วได้ถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงนั่นเอง
ลักษณะ : เป็นแมวแบบขนกึ่งสั้นกึ่งยาว จะมีขนหนายาวในช่วงฤดูหนาว  และขนจะสั้นลงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ  เหมือนพวกสัตว์ป่าตามสารคดีเลย สภาพอากาศตามป่าที่มันอยู่อย่างรัสเซียนั้นช่างโหดร้ายทารุณ  จุดเด่นของมันเท่าที่สังเกต แมวพันธุ์นี้จะมีขนที่แผงขอช่างเหมือนสิงโตตัวน้อยดี ๆ ขนของมันนั้นมีหลากหลายสีตามการผสม แถมร่างกายของเจ้าพันธุ์นี่ช่างแข็งแกร่งสมกับมาจากป่าจริง ๆ
อุปนิสัย : เป็นแมวที่มีลักษณะนิสัยดี เหมาะสมแก่การเป็นแมวเลี้ยง แม้จะมีลักษณะคล้ายแมวป่าก็ตาม ลักษณะนิสัยคล้ายคลึงสุนัข คือจงรักภักดีและเป็นมิตร
การดูแล : แมวพันธุ์นี้ต้องการอาหารถึงวันละ 4 มื้อเลยนะมากกว่าสุนัขอีก และอาหารนั้นก็ควรมีสัดส่วนทางโภชนาการที่พอเหมาะกับมันด้วย และต้องเล่นกับมันให้เป็นประจำนะคะ เพื่อไม่ให้มันเป็นแมวที่เบื่อโลกเซื่องซึมประมาณนั้น แมวพวกพันธุ์นี้มันต้องการความรักและการเอาใจใส่เรื่องการเล่นกับมันมาก ๆ เลย

     เมนคูน (Maine Coon)

ถิ่นกำเนิด : ประเทศสหรัฐอเมริกา (America)
สายพันธุ์ : เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ตามธรรมชาติระหว่างแมวบ้านกับแมวป่าอเมริกันลิงซ์ (American Lynx) ซึ่งชื่อของสายพันธุ์ก็ได้มาจากแมวบ้านที่มาจากรัฐ Maine ของประเทศอเมริกา ส่วนคำว่า Coon ได้มาจากความเชื่อของคนพื้นเมืองว่าเจ้าแมวพันธุ์มันเกิดจากการผสมพันธุ์กับ Raccon จึงทำให้หางมันออกมาเป็นพวงเหมือนแรคคูนซะขนาดนั้น
ลักษณะ : เป็นแมวขนาดใหญ่สูงใหญ่จัดได้ว่าใหญ่ที่สุดในบรรดาแมวทั่วไป  กล่าวได้ว่าขนาดพอๆกับสุนัขเลยทีเดียว  โหนกแก้มสูงเป็นจุดเด่นของแมวพันธุ์นี้เลยก็ว่าได้ซึ่งด้วยความสวยงามและโหนกแก้มสูงของมันช่างมีลักษณะเหมือนนางแบบซะจริง ๆ รูปหน้ายาวปานกลาง ใบหูตั้งชี้เรียวแหลม มีขนที่ปลายหูเหมือนแมวป่า ดวงตากลมโต เป็นแมวประเภทขนกึ่งยาว (Semi Long Hair)ตัวผู้จะมีขนคอที่หนากว่าตัวเมีย ขาแข็งแรง ความยาวได้สัดส่วนกับลำตัว อุ้งเท้าใหญ่ เท้าหน้าจะมีนิ้วข้างละ 5 นิ้ว ส่วนเท้าหลังมีข้างละ 4 นิ้ว
อุปนิสัย : เป็นแมวที่ไม่ค่อยมีปากเสียงมากนัก คุณสามารถหาเห็บ หมัด เช็ดหู สางขน โดยไม่ปริปากบ่นรำคาญเลย แถมยังชอบอีกด้วย
การดูแล : แมวกึ่งขนยาวแบบเมนคูน และด้วยความที่มีขนเพียงชั้นเดียว จึงไม่มีปัญหาขนพันกันยุ่งแบบแมวขนยาวอย่างเปอร์เซีย การดูแลจึงทำได้ง่ายขึ้น และผลจากการพัฒนาสายพันธุ์ตามธรรมชาติ ทำให้พวกเค้ามีความแข็งแรง สามารถทนต่อสภาพอากาศที่แปรปรวนของท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี  คุณนายนอริส จากภาพยนตร์ แฮรี่ พอตเตอร์ นี่ก็เป็นพันธุ์เมนคูนเหมือนกันเคยสังเกตุกันรึเปล่าเอ่ย
 
     สก็อตทิช โฟลด์ (Scottish fold)



ถิ่นกำเนิด : จากประเทศสก็อตแลนด์
ลักษณะ : เป็นแมวขนาดกลาง ศีรษะกลม หูพับหรือตั้ง บางตัวหูจะพับเพียงครึ่งเดียว พับ 2 ส่วนหรือพับ  3 ส่วน จะมีทั้งขนสั้นและขนยาว  หัวเพศผู้จะใหญ่กว่าหัวของตัวเมีย
อุปนิสัย : มีความกระตือรือร้น ชอบคลอเคลีย, มีความสุภาพ เรียบร้อย ขี้เล่น
ขี้อ้อนและขี้ประจบเจ้าของ เป็นแมวที่ไม่ค่อยส่งเสียง จัดเป็นแมวต่างประเทศที่เลี้ยงง่ายสายพันธุ์นึงเลย